คือ กระบวนการเคลือบเชิงไฟฟ้า (Electrolytic Deposition) ด้วยโครเมียม (Chromium) การชุบฮาร์ดโครมสามารถทำได้กับวัสดุเกือบทุกชนิด ยกเว้น อลูมิเนียม และขี้ตะกั่ว โลหะที่นิยมนำมาชุบส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กกล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กกล้าชุบแข็ง

 

การชุบฮาร์ดโครมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. การชุบบาง เป็นการชุบเพื่อยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ที่มักใช้ในงานที่มีอัตราความเสี่ยงต่อการสึกกร่อนสูง หรืองานที่อยู่ในสภาพที่มีการกัดกร่อนทางเคมี
  2. การชุบหนา เป็นการชุบเพื่อซ่อมแซมชิ้นส่วนอะไหล่ที่ชำรุดเสียหาย ให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเดิม สามารถชุบหนาถึง 0มม.

 

คุณลักษณะจำเพาะ เรียบลื่น เป็นมันเงา และไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับการชุบผิว แม่พิมพ์พลาสติก เพื่อสามารถแกะชิ้นงานออกได้ง่าย ความสวยงาม และเพิ่มความแข็งแกร่งของชิ้นงานให้มีความแข็งสูงถึง 58-62 H.R.C

คุณสมบัติของชิ้นงานหลังการชุบฮาร์ดโครม

  • ทนความร้อน (Heat Resistance)
  • ค่าความแข็งสูง (High Hardness)
  • ต้านทานการสึกกร่อนได้ดี (Good Wear Resistance)
  • ต้านทานการกัดกร่อนจากสารเคมีได้ดี (Good Corrosion Resistance)
  • สัมประสิทธิ์การเสียดทานต่ำ (Low Coefficient of Friction)
  • ใช้อุณหภูมิในการซ่อมแซมต่ำ (Low Temperature Treatment)

ตัวอย่างชิ้นงานที่นำมาชุบฮาร์ดโครม เช่น กระบอกสูบไฮดรอลิก (Hydraulic cylinder) ด้ามลูกสูบ () ใบพัด (Rotors) ลูกโม่ (Rollers) วงแหวนลูกสูบ (Piston ring) ผิวด้านนอกเบ้าหล่อ (Mold surfaces) แม่พิมพ์ตอกโลหะ (Dies) ตะปูควง (Screws) เข็มร้อยด้าย (Thread guides) และลำกล้องปืน (Gun bores) เป็นต้น